ปัจจุบันการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นหนึ่งเครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ ทำให้คนส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะงานศิลปะดิจิทัลในรูปแบบ NFT ที่ในอนาคตมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด และจะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างมาก และที่สำคัญ NFT ไม่ได้มีความน่าสนใจในการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรในแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญอีกด้วย ที่ทำให้เหล่าบรรดาธุรกิจต่าง ๆ สามารถนำ NFT มาจัดกิจกรรมทางการตลาดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
NFT ไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว แต่เป็นดิจิทัลอาร์ตที่สามารถสร้างโอกาสให้กับแบรนด์สินค้าให้ประสบความสำเร็จในการสร้างคลับ NFT ที่เป็นแนวทางให้ธุรกิจใช้เป็นประโยชน์ต่อยอดเพิ่มฐานลูกค้าได้ โดยการสร้างในรูปแบบของบัตรสมาชิกให้ผู้ที่ถือ NFT มาใช้ผลิตภัณฑ์หรือ สามารถใช้บริการของผู้ออก NFT ได้ โดยเป็นสิทธิพิเศษของผู้ที่ถือ NFT เท่านั้น ซึ่งเหมือนเป็นตัวเชื่อมกับคนเหล่านั้นที่มีความสนใจคล้าย ๆ กันให้มาเจอกันได้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แล้วนัดพบจริง ๆ ในคลับก็จะสามารถสร้างคอนเนกชั่นเพิ่มได้ รวมถึงสามารถเชื่อมโยงกันได้กับเพื่อนใหม่ หรือใช้ตรงนี้เป็นความสัมพันธ์นี้ต่อยอดสร้างประโยชน์ต่าง ๆ ได้ ดังนั้น NFT จึงมีค่ามูลค่ามากกว่าดิจิทัลอาร์ตเพียงอย่างเดียว
ทุกวันนี้ Digital Asset ถูกนำมาใช้ในโลกธุรกิจหรือโลกอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในบ้านเรา คนไทยเริ่มที่จะให้ความสนใจและมีความเข้าใจค่อนข้างมากเมื่อเทียบในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา NFT ในอนาคตยังสามารถเติบโตไปได้อีก โดย MarketsandMarkets เผยว่า ตลาด NFT คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 4.5 เท่า ภายในปี 2027 ซึ่งหมายความว่าตลาดจะเติบโตสูงถึง 13,600 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2027 จากมูลค่าตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ 3,000 ล้านดอลลาร์ การเติบโตนี้อ้างอิงจากอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 35.0% หากความสนใจในหมู่นักลงทุนยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ ในอีก 5 ปีของหน้า ตลาด NFT ทั่วโลกจะยังคงมีการเติบโตผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์ ชุมชนเกม และความต้องการงานศิลปะดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น แม้ในระยะนี้จะมีความผันผวนสูงแต่ก็ถือเป็นช่วงปฏิวัติวงการสินทรัพย์ดิจิทัลจะทำการคัดกรองให้เหลือเพียงสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีความเสี่ยงและผันผวนต่ำ ในอนาคตโอกาสกลับมาเติบโตได้อีก โดยเฉพาะ NFT ซึ่งเป็นเทรนด์การสร้างรายได้และลงทุนทำกำไรได้ในระยะยาวที่น่าสนใจ แต่จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างดีควบคู่ไปด้วย
หาเทียบการลงทุนใน NFT มีความแตกต่างจากการลงทุนในหุ้นอย่างสิ้นเชิง เพราะการซื้อหุ้นเปรียบเสมือนตัวเราเองเป็นเจ้าของกิจการเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจจะได้ผลกำไรเป็นตัวเงิน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของส่วนต่างราคา หรือปันผลก็ตาม ขณะที่ NFT เป็นดิจิทัลอาร์ต ในรูปบัตรสมาชิก หรือซื้อเพราะอยากได้ความรู้ เป็นต้น ล่าสุด ปิยพันธ์ วงศ์ยะรา ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท สต๊อคทูมอร์โรว์ จำกัด ยกระดับวงการ NFT สัญชาติไทยรายแรก บนแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่าน BulIMoon Club NFT โดยเลือกวางแพลตฟอร์มไว้บนมาร์เกตเพลส OpenSea ตลาดสำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนงานศิลปะหรือของสะสม NFT ที่ได้รับความนิยมและน่าเชื่อถือที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน
BulIMoon Club NFT เน้นความเป็นคอมมูนิตี้ของนักลงทุน และนักธุรกิจเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การลงทุนรูปแบบใหม่ในโลกดิจิทัล โดยเลือกใช้ Ethereum สกุลเงินดิจิทัลอันดับสองของโลกในการแลกเปลี่ยน โดยมี Blockchain ที่นักพัฒนาสามารถสร้าง แอปพลิเคชัน แบบกระจายศูนย์ หรือ Dapps (Decentralized Application) โดยสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองผ่าน Smart Contract ที่ถือว่าเป็นสกุลเงินที่ศักยภาพเปิดกว้างให้ผู้คนทั่วโลก และนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าถึงได้ง่าย
สำหรับ BullMoon Club NFT ในซีรีส์แรก BullMoon Club NFT จะเปิดรับ NFT จำกัดเพียง 5,500 ชิ้นและจำนวนสมาชิกเพียง 5,000 คน ที่จะสร้างความเป็นคอมมูนิตี้ กลายเป็นศูนย์รวมของนักลงทุน รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ร่วมกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟประจำเดือน อีเวนต์ให้ความรู้อัปเดตเทรนด์ จากกูรู ผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจจำนวนมากในวงการลงทุน ซึ่งจะเป็นสังคมที่ส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับ NFT ของคนในคลับพร้อมนำประสบการณ์ด้านการลงทุนมาร่วมแบ่งปัน เพื่อช่วยต่อยอดการลงทุนสร้างมูลค่า ซึ่ง NFT เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนามาจาก 3 รากฐานที่สำคัญ คือ Utility (ประโยชน์) Community (คลับของนักลงทุน) และ Art (งานศิลปะคุณภาพ) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดสภาพคล่องที่ดีให้เติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังจะได้สิทธิ์เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ และสิทธิประโยชน์จากเครือข่ายธุรกิจในอนาคตโครงการ Metaverse Bangkok ปี 2566
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า NFT เป็นอีกทางเลือกสำหรับการลงทุนยุคใหม่ของโลก Metaverse ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกเร็ว ๆ นี้ ด้วยเทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ของผู้คนค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไป แต่ทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงในตัวของมันเอง ฉะนั้นแล้วก่อนการลงทุนทุกครั้งต้องทำการศึกษาให้ดีเสียก่อน เพื่อให้ทุกการลงทุนพลาดน้อยที่สุดนั่นเอง