สินทรัพย์ดิจิทัลถือว่าเป็นการลงทุนในรูปแบบใหม่ ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา นักลงทุนหลายคนต่างให้ความสนใจเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปรับตัวสูงอย่างรวดเร็ว
แม้จะเห็นการปรับฐานลงค่อนข้างรุนแรง บวกกับความผันผวนในสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งถือเป็นความท้าทายเป็นอย่างมาก แล้วหากนักลงทุนอยากที่จะเข้ามาลงทุนในระยะยาว เพื่อการเกษียณอายุนั้นจะมีความเหมาะสมหรือไม่? และเราควรจะจัดสรรพอร์ตการลงทุนอย่างไรในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ ?
พิริยะ สัมพันธารักษ์ กรรมการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และกรรมการผู้จัดการ และบริษัทโฉลกดอทคอม จำกัด ได้ให้ความรู้กับนักลงทุนในงานสัมมนาออนไลน์ “สินทรัพย์ดิจิทัลกับการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ” กับการจัดพอร์ต ว่า สินทรัพย์เพื่อการลงทุนแต่ละประเภทมีหน้าที่ของการทำงานที่แตกต่างกันออกไป การจัดสรรพอร์ตตาม asset allocation จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้
ถ้าหากสินทรัพย์ดิจิทัลในที่นี้คือ บิทคอยน์ที่มีมูลค่าในตัวของมันเอง สร้างรักษาความมั่งคั่งในระยะยาวได้ แต่ถ้าจะลงทุนเพื่อเก็บออมระยะยาวเพื่อมีเป้าหมายเกษียณอายุอาจะไม่เหมาะสม เพราะการเกษียณอายุนั่นหมายความว่า เรายังต้องกิน ต้องใช้จ่ายเงินหลังจากที่ไม่ได้ทำงานแล้ว และหากนักลงทุนนำเงินไปลงทุนในบิทคอยน์ในวันที่เราเกษียณอายุ เกิดความไม่แน่นนอนราคาเกิดความผันผวนกลับร่วงดิ่งลงมาดั่งในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ทั่วโลกกำลังประสบกับภาวะเงินเฟ้อ จนอาจนำพาไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต อาจทำให้เงินออมที่เก็บมาทั้งชีวิตในตอนที่เกษียณ ซึ่งอาจจะกระทบกับการดำเนินชีวิตของนักลงทุน
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ สามารถลงทุนในระยะยาวได้ แต่อาจจะยังไม่เหมาะกับการลงทุนเพื่อการเกษียณ ที่นักลงทุนอาจจะต้องถูกบังคับขายเพื่อนำเงินมาใช้ในช่วงที่ตลาดลงแรง แต่สิ่งที่สำคัญของการจะเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล นั่นคือ ความรู้ที่ต้องมีก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้ทำความเข้าใจของกลไกการทำงานว่าเป็นอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่าการลงทุนประเภทนี้ค่อนข้างมีความผันผวนและเสี่ยงสูง ซึ่งอาจไม่สมควรต่อการเกษียณ
ฉะนั้นแล้วการออมและการเตรียมตัวเพื่อการเกษียณอายุ หลักการสำคัญคือ การกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มผลตอบแทนที่เหมาะสมในระยะยาว โดยจัดสรรเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการออมเพื่อการเกษียณเป็นเรื่องระยะยาว และมีความสำคัญ มีความท้าทายใหม่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น สังคมสูงวัยที่ประเทศไทยที่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งการลงทุนในอนาคตจะมีความผันผวน ความไม่แน่นอน ความไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นนักลงทุนจะต้องปรับตัวให้ทัน โดยการใช้ข้อมูลมากขึ้น รวมถึงติดตามข่าวสารทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะได้ทราบถึงมุมมองการลงทุนทั้งภายในความผันผวนเศรษฐกิจ และการเงินที่เปลี่ยนแปลงไปตามอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ราคาพลังงานและสินค้าหลายชนิดที่แพงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าปัจจุบันเงินเฟ้อสูงขึ้น หลายคนต้องการอยากออมเงินเพื่อให้ชนะเงินเฟ้อในอนาคต แต่สิ่งสำคัญนั่นคือการไม่ใส่เงินลงทุนไปในสินทรัพย์เดียว แต่ควรกระจายการลงทุนเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง เพราะแต่ละสินทรัพย์เพื่อการลงทุนมีหน้าที่ในการทำงานของแต่ละช่วงภาวะเศรษฐกิจที่แตกต่างกันออกไป และจะทำให้สร้างผลตอบแทนในอนาคตได้