ในที่สุด วงจรณ์อุบาทว์ของตลาดหุ้นที่มีปัญหาเกี่ยวกับ algorithm และการ short sell เริ่มคลี่คลายจากการที่ กลต.ได้อนุมัติให้ใช้ระบบ uptick ได้ภายในสิ้นเดือนหกที่จะถึงนี้
ระบบ uptick คือ การที่คุณยืมหุ้นมาขาย จะไม่สามารถขายที่ช่องฝั่งซ้าย หรือ bid ได้ทันที คุณต้องวางหุ้นที่ต้องการจะขายไว้ฝั่งขวา หรือ offer เท่านั้น ทำให้หลังจากเดือนหก การเก็งกำไรขาลงก็จะไม่สามารถ dump ราคาหุ้นลงไปลึกลึกหรือหลายช่องได้อีก เช่น หุ้น ptt bid 34 offer 34.25 คนที่ยืมหุ้นต้องตั้งไว้ที่ 34.25 หรือมากกว่าเท่านั้นไม่สามารถขายซ้ายที่ 34 บาท ได้ทันทีทันใด ดังนั้น ระบบการดัมพ์ราคาเพื่อลงไปรับข้างล่าง ก็จะเริ่มยากขึ้น robot เก็งกำไรขาลงจะทำงานได้ยากขึ้นมาก
ทุกครั้งที่มีวิกฤตทางการเงินของทุกประเทศในโลก จะมีตัวช่วยเบื้องหลังมาฉุดให้พ้นจากวิกฤตคือ invisible hand หรือมือที่มองไม่เห็น ทุกครั้ง อย่างเช่นตอนโควิทระบาด อเมริกาออก qe ปั๊มเงินจำนวนมากออกมาอุ้มธนาคาร และช่วยเหลือประชาชนทันที ธุรกิจต่างต่างหยุดชะงัก แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกกลับขึ้นอย่างรุนแรง ประเทศไทยเราก็ออกกฏ uptick ชั่วคราว ทำให้ช่วงนั้นระบบ robot ทำงานได้ไม่ครบ loop เก็งกำไรขาลงไม่ได้ หุ้นบ้านเราก็ขึ้นตามทุกประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยเกิดการเสื่อมวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง รายย่อยนักลงทุนในประเทศหนีไปลงทุนตลาดเมืองนอกกันหมด จากปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศและปัญหาในตัวระบบของตลาดหลักทรัพย์ ที่ก่อให้เกิดความเสียเปรียบ ไม่เป็นธรรมต่อผู้ลงทุน ไม่สามารถต่อกรกับ algorithm ทั้งมีดีและเลว ตามที่ออกข่าวมา ก็ยังสงสัยว่า หุ่นยนต์มีแยกเลวดีได้ เค้าน่าจะเห็นมนุษย์เป็นคู่แข่งมากกว่าเป็นมิตร เพราะเห็นแต่ละคนซื้อหุ้นอะไรไปก็ขาดทุน สมัยก่อนยัง daytrade ได้เงิน ปัจจุบันแทบไม่มีทาง ต้องขาดทุนก่อนแล้วค่อยใช้เวลากลับมา
การแก้ไขกฏ uptick เป็นส่วนนึงที่ผมหวังว่าจะช่วยให้ตลาดหุ้นดีขึ้น และจะค่อยค่อยแก้ไขความเสื่อมศรัทธาของรายย่อยให้กลับคืนมา บางคนที่ไม่ลงทุนในตลาดหุ้น อ่านแล้วก็อาจจะมองว่าตลาดหุ้นไม่ค่อยมีความสำคัญเท่าไรต่อระบบเศรษฐกิจเป็นเพียงอุตสาหกรรมหนึ่งเท่านั้น แล้วถ้าในอนาคต ai เข้ามาเต็มรูปแบบ คนจำนวนมากตกงาน คนสูงอายุก็เต็มไปหมด แล้วจะทำอย่างไร ดอกเบี้ยที่ฝากธนาคารอาจจะติดลบเหมือนญี่ปุ่น ตลาดหุ้นอาจจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ให้เงินคุณงอกเงย หรืออย่างน้อยก็สู้กับเงินเฟ้อได้ ยามที่คุณอยู่ในวัยชราหรือตกงาน ยังมีเงินปันผลที่จับต้องได้ให้คุณเก็บกิน เหมือนช่วงโควิท ที่ทุกธุรกิจหยุดชะงักลง
ตามประวัติศาสตร์ การเมืองของทุกประเทศในโลกไม่เคยมีประเทศไหนที่อยู่รอดได้ ถ้ารัฐทอดทิ้งหรือเอาเปรียบชนชั้นกลาง ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่น การเมืิองและเศรษฐศาสตร์จะเกี่ยวข้องต่อเนื่องกันเสมอ การกระตุ้นเศรษฐกิจแบบชั่วคราวอาจจะได้ผลในระยะสั้น แต่ไม่ดีต่อวินัยการคลังในระยะยาว เอาเงินห้าแสนล้านที่จะแจกคนฟรีมาส่งเสริมธุรกิจ ต่อยอด innovation การแพทย์ หรือผลิตชิพ เซมิคอนดักเตอร์ ส่งเสริมพัฒนาบุคคลากรในสายนี้ น่าจะได้ประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า ประชุมสภาก็มีแต่ทะเลาะกันเรื่องเดิมเดิม นโยบายแจกเงินก็ช่วยชนชั้นล่าง แล้วชนชั้นกลางที่มีส่วนสำคัญต่อประเทศชาติ เมื่อเกิดวิกฤตก็จะต้องเป็นผู้แบกรับภาระภาษีทุกครั้งไป สังคมแต่ละองค์กร เช่นตำรวจ ก็วิกฤต คอรัปชั่นกันสนุกสนาน อย่าคิดว่าเด็กรุ่นใหม่ เค้าไม่รู้เรื่อง เพียงแต่เค้ารอเวลาและฉลาดที่จะไม่ใช้ความรุนแรง รอคนเก่งที่มองเห็นปัญหาของทุกด้านและสามารถแก้ไขได้
ตลาดหุ้น ใช้คำว่า lost in the decades มาเป็นสิบปีแล้ว เราจะปล่อยให้อีกสิบปีข้างหน้าเป็น lost อีก ก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้วครับประเทศนี้…
CR: Pawadol Kliewakradet FB