ซีอีโอผู้เชื่อในความหมัศจรรย์ของมนุษย์
ย้อนกลับไปราว 90 กว่าปี ที่แล้วในย่านสะพานเหล็ก กรุงเทพมหานคร มีอยู่ร้าน ๆ นึงเป็นธุรกิจรอบครัวเชื้อสายจีน ค้าขายจำพวก เพชร พลอย หยก มุก
ยุคสมัยผ่านพัดไปตามเวลา จากรุ่นเหล่ากง อากง จนได้ตกทอดมาสู่รุ่นที่สาม ซึ่งมองเห็นอย่างแม่นยำด้วยวิสัยทัศน์ว่าเมืองจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน จึงตัดสินใจหยิบเพชรมาเป็นเป็นสินค้าหลักในการตีตลาด
โดยเริ่มจากขยับขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ค้าขายผ่านเคาท์เตอร์ตามห้างสรรพสินค้าเป็นรายแรก ๆ ของประเทศไทย จะเรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมนี้ก็คงไม่ผิด
ปัจจุบัน “Jubilee” หรือ “บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์” ตกทอดมาสู่รุ่นที่ 4 บริหารโดย คุณอัญรัตน์ พรประกฤต ที่ได้ยกระดับแบรนด์ด้วยการวางกลยุทธ์และนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ ขยับขยายไปช่องทางออนไลน์และมี flagship store พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูล เอไอแอปพลิเคชั่น เข้ามาช่วยจัดการให้ระบบแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ว่ากันว่าธุรกิจที่ประสบผลความสำเร็จ จะต้องย้อนกลับไปดู Working culture ภายในองค์กรเสียก่อน ซึ่งนั่นรวมถึงตัวผู้บริหารที่มีบทบทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง
ดังนั้นเราจะมาลองดูกันว่า “Success Mindset” ของคุณอัญ ที่ทำให้แบรนด์ยังคงแข็งแกร่งและประสบผลความสำเร็จอย่างมากในทุกวันนี้ มีหน้าตาเป็นอย่างไร?
แนะนำตัวยังไงก็ได้ให้รู้จักพี่อัญดีขึ้น
ถ้าให้คำนิยามตัวเองและหลาย ๆ คนที่พูด บอกว่าพี่เป็นคนที่ “ไม่ตรงปก” หลายคนมองเห็นว่าพี่ทำธุรกิจอัญมณี เครื่องประดับ ประกอบกับหน้าตา ดูจะเป็นผู้หญิงที่มีความหวาน แต่ว่าด้วยนิสัยความเป็นจริงแล้ว ถ้าคนที่ได้รู้จักก็จะบอกว่าเป็นคนที่มีวิธีคิดค่อนข้างที่จะ objective มาก เป็นผู้ชาย มีความบ้าพลังสูงมาก พลังเยอะมาก แอคทีฟ เอนเนอเจติก
พี่อัญมีความฝันอยากจะเป็นหรือทำอะไร ถ้าไม่ได้ทำธุรกิจนี้
คงทำอะไรบนสิ่งที่ตัวเองมีแพสชั่น เพราะเราจะทำได้ดี สนุกที่จะทำ ก็อาจจะทำอะไรที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย เรื่องของผลิตภัณฑ์ เรื่องของอะไรที่เกี่ยวกับสุขภาพ เพราะชอบศึกษาเรื่องพวกนี้
ในฐานะที่เป็นผู้บริหารรุ่น 4 มีการบริหารธุรกิจอย่างไรที่แตกต่างและเหมือนเดิมจากรุ่นก่อนบ้าง?
สิ่งที่ยึดถือไว้จากรุ่นสู่รุ่นคือ การที่เราดูแลพนักงานเหมือนบุคคลในครอบครัว ถ้าทีมงานของเราไม่แฮปปี้ มีความทุกข์ พี่ก็จะไม่แฮปปี้ด้วย ก็มักจะบอกว่าน้องอย่าเพิ่งมาเสียเวลาชีวิตวันนี้เลย ถ้าน้องไม่พร้อมพักผ่อนก่อน พร้อมแล้วค่อยมาทำงาน เพราะพี่เชื่อว่าความสุขของคนเราจะมาสร้างงานได้และสร้างงานได้ดีด้วย
พี่เชื่อว่า people สามารถ drive ให้เกิดอะไรใหม่ ๆ ได้ ทีมทำงานรุ่นใหม่ยึดถือในผลลัพธ์ของงานมากกว่า พูดตามตรงกฎระเบียบก็ต้องยืดหยุ่นในการทำงาน ให้น้องที่ทำงานมีความสุขที่จะทำ ไม่อยากให้รู้สึกว่าที่นี่เป็นออฟฟิศ แต่เป็นที่เรามาสร้างสรรค์ผลงานอะไรด้วยกัน
งั้นสไตล์การทำงานของพี่อัญเป็นแบบไหน
สไตล์ในการทำงานของพี่เน้นผลลัพธ์ เพราะฉะนั้นยังไงก็ได้ งานเสร็จจบ แต่ถ้างานไม่เสร็จก็ต้องทำอยู่ รับผิดชอบจนเสร็จ พี่ไม่ได้ต้องให้มาในช่วงเวลาปกติของออฟฟิส ก็แล้วแต่ ทุกคนรับผิดชอบตัวเอง เราก็ให้เกียรติลูกน้องเพราะทุกคนมีความรับผิดชอบ น่าจะมีวินัยในตัวเอง ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ค่อย ๆ เปลี่ยน
ที่สำคัญ ทำงานอันนี้แล้วได้ผลลัพธ์ทุกคนมีรางวัล และรางวัลนี้จะเป็นอะไร ภาพพวกนี้ควรที่จะชัดเจน ทุกองค์กรถูกสร้างด้วยคาแรคเตอร์ของลีดเดอร์ พี่เป็นคนค่อนข้างตัดสินใจชัดเจน คุยอะไรกับทีมก็จะตรงไปตรงมา
อยากให้พี่อัญอธิบายสไตล์การของตัวเอง โยงมาที่มุมของ ‘การเงิน‘
สิ่งแรกจะต้องประเมินตัวเองก่อนว่าเราเป็นคนแบบไหน รับความเสี่ยงได้มากไหม เราเป็นคนชอบความตื่นเต้นหรือไม่ชอบ ทุกอย่างในการทำของพี่จะเบสบนความสุข เราไม่อยากจะมานั่งกังวลใจ ความทุกข์จะทำให้สุขภาพไม่ดี พอเราไม่สร้างสรรค์งานใหม่ พลังชีวิตก็ไม่มา
พอเราประเมินตัวเองว่าเรารับความเสี่ยงได้ประมาณไหน ถ้ามีความเสี่ยงเกิดขึ้นเกินที่เราคาด ไม่แฮปปี้นะ พอเราประเมินความเสี่ยงว่าเป็นเลเวลที่รับได้ การที่เราจะลงทุน บริหารเงิน จะดูว่าเป็นสิ่งที่อยู่ในเกณฑ์ที่เรารับได้หรือเปล่า ทุกวันนี้โลกเปิดมากถ้าเทียบกับในอดีต ทุกวันนี้มีหลากหลาย เช่น alternative investment หรือ passion investment
เพชรก็เช่นเดียวกัน ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่เป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น พี่จะดูว่า ถ้าเรารับความเสี่ยงได้แค่ระดับหนึ่ง ก็จะมีสินทรัพย์ที่ลงทุนว่า จุดนี้เสี่ยง จุดที่ไม่เป็นไร ค่อย ๆ ให้มันเติบโตได้ เราก็จะบริหารแบบนี้
มีคำสอนที่ตกทอดมาจากรุ่นก่อน ๆ บ้างไหม
มีสิ่งหนึ่งที่ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อสอนมา ท่านบอกว่าคนเราควรจะแบ่งเก๊ะในการบริหารจัดการเงินที่ชัดเจน เช่น อันนี้สำหรับบริษัท อันนี้ส่วนตัวเพื่อที่เวลาเราใช้เงินจะได้ไม่กระทบกัน ในส่วนตัวก็จะต้องมีลิ้นชักย่อยอีกนะ อย่าง อะไรเพื่อใช้ อะไรเพื่อเก็บ อะไรเพื่อ enjoyment ส่วนตัว
มนุษย์ไม่ได้เก็บอย่างเดียวใช้อย่างเดียว ทุกอย่างจัดสรรปันส่วนให้เราทำงานมา เราได้รับผลตอบแทนนั้น ใช้พาร์ทหนึ่งให้ชีวิตมีความสุข อีกพาร์ทหนึ่งเพื่อความไม่ประมาทกับชีวิตในอนาคต พี่ว่าคือการบาลานซ์ การแบ่ง
อยากให้พี่อัญอธิบายเรื่องการลงทุนในเพชร
เพชรเป็น passion investment และเป็น alternative investment ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในระดับโลก การลงทุนในเพชรเพิ่มสูงขึ้นมาก ๆ ถ้าถามร้อยคน คนจีนที่ซื้อเพชรจะบอกว่า ซื้อเพื่อการลงทุน ซื้อเพชรใส่ด้วย แต่ตัวเพชรเป็นแร่ที่มีความแข็งมากที่สุด อยู่ได้นาน ส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่น ใส่ไปด้วยมูลค่าเติบโตไปด้วย มีราคากลางของตลาดโลก มีราคามาตรฐาน ไม่ได้อยู่ที่ว่าอยากจะซื้อ อยากจะขายเท่าไหร่
พูดง่าย ๆ เทียบเหมือนกับนาฬิกา มีรุ่นนี้ เทรดกันอยู่กันเท่านี้ เพชรจะมีเหมือนกัน สเปค ไซส์ สีนี้ ราคากลางอยู่ที่แบบนี้ เพชรเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น universal คนทั่วโลกใช้เหมือนกันหมด ไม่ใช่ว่า คนประเทศนี้ไม่เอาเลยกับผลิตภัณฑ์นี้ เพชรทั่วโลกมีราคากลาง มีใบเซอร์ทิฟิเคท คนบนโลกถือใบเดียวกันหมด สามารถไปอ้างอิงกับราคาของตลาดโลก ณ โมเม้นท์นั้น
พี่อัญคิดว่าการบริหารเงินที่ดีต้องเริ่มจากอะไร
การวางแผนจะช่วยเราได้ วางแผนเช่นว่าสมมุติอายุ 25 พอไป 30 เราอยากใช้ชีวิตประมาณไหน ไม่ได้พูดถึงอาชีพนะ แต่พูดถึงไลฟ์สไตล์ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินที่เราจะใช้
อยากเป็นคนไลฟ์สไตล์แบบไหน เช่น ปีหนึ่งต้องเที่ยวและจะเที่ยวกี่ครั้ง ปีหนึ่งจะเที่ยวเลเวลไหน เที่ยวใช้บัทเจทแบบไหน พี่ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากการวางแผน นี่แหละอยากได้แบบนี้ นี่คือขาจ่าย ส่วนขารับเราบาลานซ์กับขาจ่ายไหมนะ ถ้าไม่บาลานซ์เราหาขารับเพิ่มไหม ถ้าเราบอกว่า ก็หาไม่ได้ ขารับเราเต็มที่แล้ว เราก็ต้องตัดขาจ่ายถ้ามันเกินไป ทำให้เราไม่มีเก็บไว้เพื่อความเสี่ยงในอนาคต
ควรเริ่มต้นยังไงดี
พี่ว่า พลอตง่าย ๆ เขียนง่าย ๆ บนกระดาษใบหนึ่งจะเริ่มเห็นภาพว่า ถ้าอยากมีไลฟ์สไตล์แบบนี้ นี่คือเงินที่สเปน เพื่อความสุขของตัวเอง ขารับ ขาจ่าย บาลานซ์ไหม เมื่อได้วางภาพ มนุษย์จะเริ่มคิดได้เองว่า ต้องเริ่มเก็บไหม หรือหาเงินเพิ่มไหม หาอาชีพสองสามสี่เพิ่ม มันอยู่ที่วิธีคิด อย่างน้อยพี่ว่า สมมุติเรามีบัทเจทจำกัด เราแบ่งเงินเป็นวีคก็ได้นะ เพื่อบางที เราจะได้ไม่ต้องปลายเดือนแล้วมากังวล
เช่น คิดไปก่อน วีคต้นเดือน กลางเดือน แต่ละวีคใช้เท่าไหร่ ถ้าบางวีคใช้ได้น้อยกว่าที่เราได้ปันไว้ ก็เป็นโบนัสในวีคถัดไป หรือเช่นบางครั้ง เราไม่ได้คิดเลย ก็อาจจะไปปาร์ตี้นอกบ้านบ่อยมากจนวันหลัง ๆ ไม่พอ พี่ว่าการแพลนนิ่งมันช่วยได้ แพลนนิ่งหมายความว่า ปีนึง วันนึง เดือนนึง ฉันจะออกไปกินข้าวนอกบ้านกับเพื่อนกี่ครั้ง
พี่เชื่อว่า ถ้าวันที่ชักหน้าไม่ถึงหลังมันทุกข์กว่าแค่ไม่ได้ออกไปกินข้าวมื้อสองมื้อ การแพลนนิ่งมันสำคัญ สมมุติว่าเพื่อนจะชวนเยอะมากเลย แต่โควต้าหมดก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปกับเพื่อนเดือนหน้าก็ได้ อีกแปบเดียว วัน ๆ ผ่านไปเร็ว
ตอนนี้พอร์ตลงทุนของพี่อัญมีหน้าตาเป็นแบบไหนบ้าง
เพชรก็แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่เรารู้ดี ส่วนในหุ้นหรือกองทุน ก็มีแต่ส่วนใหญ่จะมีคนมาบริหารให้เพราะเราไม่ว่าง จะมีการมิกซ์ความเสี่ยง มีกองที่หวือหวาตามกระแสกับกองที่ช้า ๆ เรื่อย ๆ ไม่หวือหวา เน้นบาลานซ์ กองทุนอุ่นใจจะอยู่ในคีย์อินดัสทรี ที่แบบของยังไงก็ต้องใช้อยู่แล้ว ผลตอบแทนก็ไม่ค่อยหวือหวา ค่อย ๆ แต่ปลอดภัย แล้วก็มีทองคำบ้าง
อยากให้พี่อัญปิดท้าย ด้วยการแนะนำว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในการนำพาให้องค์กรสำเร็จได้
พี่ว่าเหนือสิ่งอื่นใด เพอร์ฟอร์แมนซ์ขององค์กรมาจากการที่ทีมควรเอนจอยในการทำงาน เพราะพี่เชื่อในพลังแห่งมนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่มีข้อจำกัด คิดอะไรใหม่ได้ตลอดเวลา พี่คิดว่ามนุษย์ไม่มีลิมิต ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ การเทรน การฝึกฝน สมมติเราไม่เคยออกกำลังกายจะบอกว่า แค่นี้ก็ไม่ไหวหรอก แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว แต่เราทำเรื่อย ๆ เราก็มีลิมิต ความต้านเราก็เพิ่มขึ้น
ก็เช่นเดียวกับการทำงาน เวลาเราทำ เราผ่านการฝึกฝน ผ่านประสบการณ์ ในอดีต ถ้าเรามองย้อนตัวเรากลับไป 5 ปี ที่แล้ว หากเราต้องคิดงานนี้ เราอาจจะใช้เวลา 5 วัน แล้วเราลองทำซ้ำ ๆ จากที่เคย 5 วัน ก็เหลือวันเดียว หรือ 5 ชั่วโมงได้ พี่ว่า มนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สามารถสร้างอะไรให้เกิดขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับใจ