ชัดเจนว่าปีนี้เป็นปีที่ไม่ค่อยดีสำหรับตลาดหุ้นไทยสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมที่ดัชนีติดลบแย่ที่สุดในโลก ไปจนถึงวิกฤตหุ้น MORE และ หุ้น STARK ซึ่งถูกนิยามว่าเป็น “อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ” ขั้นร้ายแรง แต่แล้วพายุยังไม่ทันสงบ อีกปัญหาก็ผุดขึ้น เพราะตลาดหุ้นไทยเหมือนจะโดน “Naked short sell“ ถล่ม แถมยังต้องแข่งสู้กับบอท-โปรแกรมเทรดอีก
ล่าสุด “นายชูเกียรติ รุจนพรพจี” ผู้บริหาร SABUY เจอเองกับตัว เล่าว่า 6 เดือนที่ผ่านมา หุ้น SABUY น่าจะโดนชอร์ตเซลล์ไปจำนวนถึง 120 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยที่ 8.50 บาท รวมกับช่วง 1 ปีที่ผ่านมาอีกประมาณ 250 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยที่ 11 บาท
และล่าสุด 20 ล้านหุ้น ที่เกิดหายระหว่างฝากไว้ที่ผู้รับฝากหลักทรัพย์ (Custodian) เข้าข่ายว่าจะโดน naked short sell ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้เฮียชูไม่ปล่อยผ่าน ทำการเตรียมข้อมูลแบบละเอียดยิบ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้ที่มีอำนาจกำกับดูแลหน่วยงานด้านตลาดทุนโดยตรง
นำทีมแจ้งรายละเอียดต่อผู้มีอำนาจ
โดยเฮียชู พร้อมกับ “นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานบัญชีและการเงิน, “นายวิรัช มรกตกาล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์และการลงทุน และ “นายวชิรธร คงสุข” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานบริหารกลาง ในฐานะตัวแทนผู้ถือหุ้น เข้าพบ “รวม.กระทรวงยุติธรรม – ประธานที่ปรึกษานายกฯ – ประธานบอร์ดตลท.” ผนึกกำลังทวงคืนความยุติธรรมให้ผู้ถือหุ้นของ SABUY ที่คาดว่าได้ผลกระทบจากการทำ naked short sell ครั้งนี้ประมาณ 25,000 คน มูลค่าความเสียหายหลายพันล้าน
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องหาทางจับผู้กระทำ naked short sell หุ้น SABUY มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ ซึ่งกำลังกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะ มาตรา 98(5) : “ห้ามมิให้บล.ขายหลักทรัพย์โดยที่บริษัทยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง (ห้ามทำ Naked Short Sell) เว้นแต่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนดให้กระทำได้”
แสงสว่างปลายอุโมงค์
ตอนนี้ผู้ถือหุ้น SABUY คงจะได้เห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้ว เพราะ “ผู้ใหญ่” ที่กำกับดูแลหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบโดยตรงได้ลงมารับเรื่องด้วยตัวเอง และเอ่ยปากจะจัดการนำคนทำผิดมาลงโทษให้ได้ พร้อมแก้ไขกฎระเบียบช่องโหว่ให้เป็นไปอย่างยุติธรรมกับทุกฝ่าย โดยผู้ใหญ่ที่กล่าวถึงคือ “นายทวี สอดส่อง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, “นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง” ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ “ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล” ประธานบอร์ดตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ” รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
เรียกได้ว่าแต่ละบุคคลน่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้เยอะขึ้นมาก สะท้อนให้เห็นว่าเฮียชู “เอาจริง” พร้อมเดินแผน “GameStop Thailand” รวมผู้ถือหุ้นเป็นหนึ่ง อย่าปล่อยไม่ให้ผีไล่เก็บของในกระดาน ต้องดันราคาหุ้นสู้กลับ ช่วยกันถล่มต้นทุนกลุ่มชอร์ตเซลให้หงาย ซึ่งท้ายสุดหากไม่มีหุ้นคืน ต้องคายหุ้นตัวอื่นและอาจถึงขั้นปิดบัญชีหนีไปเลยทีเดียว และอีกเจ้าที่ต้องโดนลงโทษคือ โบรกเกอร์ที่ปล่อยและช่วยเหลือให้มีการกระทำผิดกฎหมายตรงนี้ ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
นอกจากนี้ ทาง SABUY เพิ่งประกาศซื้อหุ้นคืน ที่ 95 ล้านหุ้น วงเงิน 617.5 ล้านบาท และยังทิ้งท้ายว่า
ผมในฐานะ CEO ของบริษัท SABUY และทีมผู้บริหารในเครือ ขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นทั้งหมด ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบจำนวนหุ้น SABUY จำนวน 20 ล้านหุ้นที่เคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ พร้อมขอขอบพระคุณหน่วยงานสำคัญทั้ง 3 แห่ง และผู้บริหารระดับสูง อาทิ ท่าน พ.ต.อ ทวี สอดส่อง รมต.ยุติธรรม, ท่านกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี, ดร. ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้บริหารระดับสูงของตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึง พ.ต.ต ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้ร่วมมือกันเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และพร้อมสนับสนุนให้ทาง SABUY ในเรื่องของการตรวจสอบรายการที่ทางผู้ถือหุ้นร้องเรียนความผิดปกติ โดยยึดมั่นแนวทางความโปร่งใส และสร้างความเท่าเทียม ให้เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในตลาดหุ้นไทย เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา ตลาดหลักทรัพย์ไทย ให้เป็นแหล่งระดมทุน และออมเงินระยะยาวของคนไทย รวมถึงต่างประเทศด้วย ซึ่งผมมีเชื่อมั่น และมีความมั่นใจในระบบ โดยหวังว่าจะกอบกู้ศรัทธาคืนมาสู่ตลาดหุ้นไทยได้ในไม่ช้านี้ครับ
ทาง The FinVerse มองว่า จะเป็นนิมิตรหมายอันดีสำหรับตลาดทุนไทย ที่ทางผู้มีอำนาจระดับสูงได้เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาสู่ตลาดทุนไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเราเม่าน้อยคงเริ่มจะได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันสักที!